โทนเนอร์สำคัญอย่างไร ทำไมถึงควรมีไว้ในสกินแคร์รูทีน?

สำหรับคนที่ยังจดจำการใช้โทนเนอร์ที่ทำให้ผิวแห้งตึงและมีแต่กลิ่นแอลกอฮอล์จนกลัวการใช้โทนเนอร์ ขอให้ลืมความรู้สึกเหล่านี้ไปได้เลยเพราะในปัจจุบัน โทนเนอร์จากหลากหลายแบรนด์สกินแคร์ได้ถูกนำมาปรับสูตรให้ตอบโจทย์กับแต่ละสภาพผิวมากยิ่งขึ้น
“แต่ก่อนเราจะคิดว่าโทนเนอร์นั้นมีเพื่อช่วยทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึกและมีส่วนผสมของแอลกอฮอลล์เป็นหลัก ที่มักจะทำให้ผิวแห้งตึง แต่ปัจจุบันโทนเนอร์มีสูตรปราศจากแอลกอฮอล์ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยเตรียมผิวเพื่อให้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เราทาตามลงไปซึมสู่ผิวและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่ไม่ทำลายน้ำมันในผิวตามธรรมชาติ”
พ.ญ.อนิตา นิตย์ธีรานนท์ แพทย์เฉพาะทางผิวหนังแชร์กับเราว่าถึงเวลาแล้วที่เราควรมองโทนเนอร์เสียใหม่เพราะในปัจจุบัน คุณสมบัติของโทนเนอร์นั้นมีมากกว่าแค่ช่วยทำความสะอาด
โทนเนอร์คืออะไร
โทนเนอร์คือสกินแคร์ในรูปแบบน้ำ มักจะมีส่วนผสมของสารบำรุงผิวอย่างเช่นสารต้านอนุมูลอิสระ แอซิด หรือกรดอ่อนๆ และสารต้านการอักเสบ เป็นต้น มีคุณสมบัติที่สามารถซึมเข้าสู่ผิวและช่วยคืนความชุ่มชื้นได้อย่างรวดเร็ว
เปรียบเสมือนไพร์เมอร์ที่จะช่วยเตรียมผิวของเราให้พร้อมสำหรับการบำรุงจากสกินแคร์ตัวอื่นๆ โดยเมื่อใช้เป็นขั้นตอนหลังการทำความสะอาดผิวจะช่วยปรับค่า pH ของผิวให้กลับมาสมดุล
คุณสมบัติหลักของโทนเนอร์
- เมื่อเช็ดโทนเนอร์หลังการทำความสะอาดผิว
จะเป็นการช่วยเช็คให้เรามั่นใจว่า ผิวสะอาดจากคราบเมกอัพและสิ่งสกปรกที่ยังอาจหลงเหลือจากการล้างหน้า - ช่วยปรับค่า pH ผิวให้สมดุลและกระชับรูขุมขน
- โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมช่วยผลัดเซลล์ผิวสามารถช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าออกและช่วยเผยผิวที่ดูเปล่งปลั่งกระจ่างใส
- ช่วยเติมความชุ่มชื้นและปูทางให้ผิวพร้อมรับสารบำรุงจากสกินแคร์ในสเต็ปถัดไป
โทนเนอร์ที่ SAVVSKIN แนะนำ
โทนเนอร์ทรงพลังที่มาพร้อมส่วนผสมของ DMAE, Salicylic Acid และ Copper Complex ที่มีคุณสมบัติช่วยกระชับรูขุมขนโดยช่วยควบคุมน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้าพร้อมช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนไปในตัว
สูตรช่วยมอบความสดชื่นและในขณะเดียวกันก็ช่วยบูสความชุ่มชื้นแก่ผิว เหมาะสำหรับผิวธรรมดาถึงผิวผสม
